คุณป้าป.4 พิสูจน์ “พระเจ้ามีจริง”
ที่ประเทศรัสเซีย ก่อนที่คอมมิวนิสต์จะล่มสลาย คอมมิวนิสต์ต่อต้านศาสนาและเรื่องพระเจ้า เป็นเรื่องปกติ
ครั้งหนึ่ง ผู้นำประเทศได้จัดปราศรัย เพื่อจะกล่อมความคิดของประชาชนไม่ให้เชื่อพระเจ้า โดยเชิญนักวิชาการมา 3 อาชีพ เพื่อจะเปลี่ยนความคิดของคนไม่ต้องการไม่รู้จักพระเจ้า คนแรกที่ถูกเชิญมา คือ นักบินอวกาศ
นักบินอวกาศ ก็พูดขึ้นมาว่า “พี่น้อง ประชาชนชาวรัสเซียทั้งหลาย ผมเป็นนักบินอวกาศ จักรวาลนี้ไม่มีพระเจ้าหรอก เพราะผมท่องอวกาศไปหลายสิบเที่ยวแล้ว ผมยังไม่เห็นพระเจ้าเลย”
“ผมไปดวงจันทร์ ดาวอังคาร ผมก็ยังไม่เห็นพระเจ้าเลย ถ้าพระเจ้ามีจริง ผมคงเห็นแล้ว ผมออกไปนอกโลกแล้ว ผมก็ยังไม่เห็นสวรรค์กับนรกเลย เป็นความว่างเปล่า เพราะถ้ามันมี ผมจะต้องเห็น”
“ผมเป็นนักวิชาการ ถูกเลือกมาโดยประเทศ ให้ไปท่องอวกาศ ไปหลายสิบเที่ยวแล้ว พระเจ้าไม่มีหรอก หยุดความคิดนั้นเถอะ … “ทุกคนเงียบ ไม่มีใครปรบมือให้
ต่อมา คนที่ 2 ขึ้นมา ผมเป็นหมอ เรียนมา 6 ปี ได้ปริญญาตรี ผมมีความคิดความอ่าน โลกนี้ไม่มีพระเจ้า ผมเห็นด้วยกับนักบินอวกาศ มนุษย์เกิดมาจากสัตว์ วิวัฒนาการของชาร์ล ดาร์วิน ใช้ได้ มนุษย์ตายแล้วตายเลย มนุษย์ไม่มีจิตวิญญาณ ผมผ่าตัด ตั้งแต่กบ คางคก แมลงสาบ หนู ไปจนถึงมนุษย์ ผ่า มนุษย์มาหลายรายแล้ว บางคนผ่าแล้วก็รอด บางคนผ่าแล้วก็ตาย ศพก็เคยผ่า บางคนผ่าตัดแล้วตาย ผมไม่เคยเห็นจิตวิญญาณเป็นอย่างไรเลย ไม่เคยเห็นจิตวิญญาณมาเดินผ่าน หรือมาล่องลอยเลย ผมไม่เคยเห็นเลย ตั้งแต่ผมเป็นแพทย์เป็นหมอ มนุษย์ไม่มีจิตวิญญาณหรอก ถ้ามีจิตวิญญาณ ผมคงเห็นแล้ว ดั้งนั้น มนุษย์ไม่มีจิตวิญญาณ เรื่องพระเจ้าก็ไม่มี เพราะพระเจ้าเป็นพระวิญญาณ หยุดความคิดที่จะเชื่อพระเจ้าเถิด…พูดจบไม่มีใครปรบมือให้
คนที่ 3 ขึ้นมา เป็นนักวิทยาศาสตร์
ผมเห็นด้วยกับนักบินอวกาศ และแพทย์ ผมเป็นนักวิทยาศาสตร์ของรัสเซีย
ผมเชี่ยวชาญการทดลองมาโดยตลอด สิ่งใดก็ตามที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ด้วยหลักการของวิทยาศาสตร์ หรือห้องทดลองวิทยาศาสตร์ แสดงว่าสิ่งนั้นไม่มีจริง มนุษย์อุปโลทขึ้นมาทั้งนั้น เรื่องพระเจ้าก็เหมือนกัน ไม่มีจริงหรอก พอพูดจบทั้ง 3 คน ที่ประชุมเงียบ โฆษกก็ถามว่า มีใครอยากจะพูดบ้างไหม ?
มีป้าคนหนึ่ง จบ ป. 4 ขอขึ้นมาพูด … คุณป้าพูดว่าไม่เห็นด้วยเลย กับคนมีปัญญาทั้ง 3 คนนี้ คนมีความรู้ 3 คนนี้
คุณป้าของถามหน่อย … ขอเชิญนักบินอวกาศขึ้นมาบนเวที บ้านป้า มีบ่อน้ำแห้งเหือดที่ไม่มีน้ำ อยู่ด้านหลังบ้าน มองลึกลงไปก้นบ่อ ลึก 10 เมตร ไม่มีน้ำ ปรากฏว่ามีกบตัวหนึ่งอยู่ในก้นบ่อ กบตัวนี้ เมื่อมองขึ้นมาทีไรก็เห็นแต่ท้องฟ้า ถูกไม่ถูก เพราะมันอยู่ก้นบ่อ มันมองขึ้นมาก็เห็นแต่ปากบ่อและท้องฟ้า มืดบ้าง สว่างบ้าง
กบมันก็พูดบอกว่า ฉันคิดว่า โลกนี้ ไม่มีบ้าน ไม่มีทะเล ไม่มีต้นไม้หรอก เพราะฉันมองเห็นทีไร ก็เห็นแต่ท้องฟ้า และนั่นคือความจริง อยากจะถามนักบินอวกาศว่า กบคิดแบบนี้ถูกต้องมั้ย? เป็นความจริงมั้ย? ไม่จริง ….เพราะว่ากบมองเห็นแค่จุดใดจุดหนึ่งเท่านั้น มันไม่ได้เห็นภาพรวมทั้งหมด แล้วก็สรุปว่า โลกนี้ไม่มีทะเล ไม่มีต้นไม้ บางทีนักบินอวกาศก็เหมือนกบนั่นแหละ มองเห็นแค่จุดๆ เดียว แล้วบอกว่า ทั้งโลกนี้ ไม่มีพระเจ้า และพระเจ้าจะอยู่ตรงไหน บางทีเราก็โง่เหมือนกบ เรามองแค่จุดใดจุดหนึ่ง เพราะว่าเราจำกัด เราเป็นมนุษย์ตัวเล็ก แต่จะพิสูจน์ความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า กบเป็นสัตว์ตัวเล็กๆ แต่ไปพิสูจน์ว่าโลกนี้ไม่มี เพราะตัวเองมองไม่เห็น การที่มองไม่เห็น ไม่ใช่ว่าสิ่งนั้นไม่มีจริง นักบินอวกาศคิดอย่างไร ? จริงครับ … เดินคอตก ลงเวทีไป
ป้า ป.4 ก็เรียนเชิญท่านที่ 2 ขึ้นมา คือ นายแพทย์ ขอเชิญขึ้นหมอขึ้นเวทีหน่อยซิ…คุณหมอมีแม่มั้ย ? มีซิครับ… ไม่อย่างนั้น ผมจะเกิดมาได้อย่างไร แล้วคุณหมอ คิดว่า คุณแม่ของคุณหมอ รักคุณหมอมั้ย ?รักซิครับ … เอาล่ะ ถ้าคุณหมอผ่าตัดร่างกายของคุณแม่ คุณหมอช่วยแยกแยะหน่อยซิค่ะ ว่าความรักของคุณแม่ที่มีต่อคุณหมอ มันอยู่ส่วนไหนของร่างกาย ช่วยหยิบมาให้ฉันดูหน่อย โฮ…คุณป้า เสียสติป่าว หัวใจ ตับ ไตไส้พุง อวัยวะอื่น พอหาได้ แต่ความรักมันมี แต่มันหาไม่ได้ จะหยิบมาเป็นชิ้นเป็นก้อนไม่ได้ ก็นั้นไง … สิ่งที่เรามองไม่เห็น สิ่งที่เราผ่าตัด เราพิสูจน์ไม่ได้ อย่าสรุปว่ามันไม่มีจริง ความรักมันมีจริง แต่คุณหมอหยิบขึ้นมาไม่ได้ ใช่มั้ย จากร่างกายของคุณแม่ ทั้งที่คุณแม่รักคุณหมอ ฉันใดก็ฉันนั้น ความรักของพระเจ้า หรือพระเจ้าเอง เราไม่สามารถจับมาเป็นตัวเป็นตน เป็นก้อน เป็นกล่องได้ ดังนั้น อย่าสรุปมั้วๆ ว่า พระเจ้าไม่มี คุณหมอเห็นด้วยมั้ย เห็นด้วยครับ … คุณหมอ เดินคอตก เดินจากเวทีไป
ป้า ป. 4 ก็เรียนเชิญ บุคคลที่ 3 นักวิทยาศาสตร์ ขอเชิญนักวิทยาศาสตร์ ผู้เก่งกล้าในการทดลองขึ้นมาบนเวที คุณมีสมมติฐานบอกว่า สิ่งใดที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ ด้วยหลักการหรือห้องทดลองทาวิทยาศาสตร์ สิ่งนั้นไม่มีจริงใช่มั้ย ? ใช่ครับ … เอาล่ะ… คุณเก่งในการพิสูจน์น้ำใช่มั้ย ? ใช่ครับ … คุณเคยเห็นคุณแม่ร้องไห้ตอนที่คุณเป็นเด็กๆ มั้ย ? เคยครับ … บางครั้งคุณแม่เสียใจเพราะคุณประพฤติตัวไม่เหมาะสมใช่มั้ย ? พอตอนเราเป็นเด็ก บางครั้งเราดื้อ ใช่ครับ … น้ำตาของคุณแม่ประกอบด้วยอะไรบ้าง ? แน่นอน ประกอบด้วย น้ำ น้ำ ประกอบด้วย H2 + O ไฮโดรเจน 2 ส่วน ออกซิเจน 1 ส่วน ผสมกัน เป็นน้ำ และคงประกอบด้วยเกลือด้วย เพราะน้ำตาคุณแม่มันเค็มๆ แต่คุณป้าบอกว่า มันไม่เพียงเท่านั้น น้ำตาของคุณแม่ ประกอบด้วยน้ำ ประกอบด้วยเกลือ แต่มันมากกว่านั้น ประกอบด้วยความเสียใจ ประกอบด้วยความน้อยใจ ประกอบด้วยความเศร้าใจ ที่เจือปนออกมา แต่ไม่สามารถแยกสิ่งเหล่านี้ได้ด้วยเครื่องและอุปกรณ์ที่ทำการทดลองในห้องแล็ป จริงหรือไม่จริง นักวิทยาศาสตร์ ? จริงครับ …
ฉันใดก็ฉันนั้น ความรักของพระเจ้า หรือพระเจ้าเอง ไม่สามารถใช้อุปกรณ์ที่เล็กๆ ที่มนุษย์คิดขึ้นมา เพื่อจะมาแยกแยะ ให้ได้ไฮโดรเจน ออกซิเจน ถ้าคุณนักวิทยาศาสตร์ยังแยกไม่ได้เลย ว่าความเศร้าของคุณแม่อยู่ในส่วนไหนของน้ำตา แต่มันมีอยู่แน่นอน มันเจือปนออกมาถูกไม่ถูก ? ใช่ครับ … นักวิทยาศาสตร์เดินลงจากเวที ด้วยอาการคอตก
ทั้งที่ประชุมปรบมือกันใหญ่ คุณป้า ป. 4 สามารถหักล้างทางตรรกะให้กับนักวิทยาศาสตร์ แพทย์ และนักบินอวกาศได้