ร.ต.อ.ฌฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีเข้าพบจุฬาราชมนตรี
เมื่อวันที่ 7 มกราคม ที่สำนักจุฬาราชมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.อ.วรพงศ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง พล.ต.ท.สฤษฎิ์ชัย เอนกเวียง ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (ผบช.ส.) และนายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต รองเลขาธิการ ป.ป.ส. เข้าพบนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี เพื่อสวัสดีปีใหม่และหารือเรื่องการแก้ปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนภาคใต้และปัญหายาเสพติด โดยมีนายปรีดา เชื้อผู้ดี กรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และนายซากีย์ พิทักษ์คุมพล เลขานุการจุฬาราชมนตรี ร่วมหารือ โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เมื่อเข้ามารับผิดชอบงานแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็เข้าหารือเพื่อแจ้งแก่จุฬาราชมนตรีว่าตนมีแนวคิดในการแก้ปัญหาอย่างไร โดยจะเชิญจุฬาราชมนตรีไปพูดสื่อสารกับพี่น้องใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผ่านทางช่องโทรทัศน์มลายูของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ในเร็วๆ นี้ เพื่อสื่อสารกับประชาชนก่อนเพื่อให้การแก้ปัญหาทำได้ง่ายขึ้น จากนั้นตนและคณะ ผบ.ตร.จะเดินทางลงพื้นที่เข้าไปแก้ปัญหา โดยตนยึดแนวทางสันติวิธี และการใช้กฎหมาย ป.วิอาญา ตามปกตินั้นทำได้ลำบาก ต้องใช้พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินเข้าดำเนินการ ทั้งนี้ เมื่อจุฬาราชมนตรีบันทึกเทปและแพร่ต่อพี่น้องในพื้นที่ชายแดนใต้แล้ว ตนจะเดินทางไปในพื้นที่ชายแดนใต้ทันที ที่ต้องให้จุฬาราชมนตรีสื่อสารทำความเข้าใจก่อน เป็นหนึ่งในวิธีการทำงานของตน ซึ่งการเข้าแก้ปัญหาภาคใต้ครั้งนี้ ตนดูเพียงเรื่องของตำรวจและฝ่ายปกครอง ไม่เข้าไปเกี่ยวกับกองทัพ ซึ่งกองทัพสามารถเดินยุทธศาสตร์ของกองทัพได้ รับรองว่าไม่ขัดกัน ไปด้วยกันได้
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ได้เรียนต่อจุฬาราชมนตรีด้วยว่า ในวันที่ 8-10 มกราคมนี้ ตนและคณะ ผบ.ตร. เลขาธิการสภาความมั่นคงฯ ตัวแทนกองทัพ และเลขาฯศอ.บต. จะเดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย โดยเข้าพบผู้ใหญ่ของทางมาเลเซีย เพื่อหารือเจราจากันหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องใบอนุญาตทำงานของคนไทยที่ข้ามไปทำงานที่มาเลเซีย ตลอดจนการขึ้นทะเบียนร้านค้าในมาเลเซียที่มีจำนวนเป็นพันๆ ร้าน แต่คนทำงานขึ้นทะเบียนทำงานเพียง 8,000-9,000 คน จะหารือเรื่องการทำงานของคนในมาเลเซีย เพื่ออำนวยความสะดวก ไปหารือกับสถานทูตด้วย ทั้งนี้ ได้หารือกับกรมการจัดหางานให้ช่วยเหลือคนไทยที่ต้องการไปทำงานในมาเลเซียด้วย เพราะหากประชาชนในพื้นที่มีงานทำก็ยากที่ถูกปลุกระดมในทางที่ผิด