คลังปัดฝุ่นแผนลดหย่อนค่าใช้จ่ายหักภาษีบุคคลธรรมดา

รายงานข่าวกระทรวงการคลังแจ้งว่าคลังอยู่ระหว่างการพิจารณาลดหย่อนภาษีให้กับบุคคลธรรมดาที่มีรายได้น้อยมากขึ้น มาตรการหนึ่งคือการเพิ่มหักค่าลดหย่อนใช้จ่ายจาก 6 หมื่นบาท เป็น 1.2 แสนบาทต่อปี ให้สอดคล้องกับความเป็นจริงมากขึ้น ขณะเดียวกัน จะลดหักลดหย่อนของคนที่มีรายได้สูง ทั้งการปรับการหักลดหย่อนการลงทุนกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) เป็นต้น ซึ่งจะเสนอให้นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง พิจารณา เพื่อส่งเรื่องให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับมาตรการปรับเพิ่มค่าลดหย่อนค่าใช้จ่ายสำหรับบุคคลธรรมดาเป็นนโยบายของนายสุทธิชัยสังขมณี อดีตอธิบดีกรมสรรพากร ในหลักการเสนอปรับปรุงเนื่องจากเห็นว่าอัตราค่าใช้จ่ายทั่วไปมาหักลดหย่อนภาษีได้ 40 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ แต่ไม่เกิน 60,000 บาทต่อปีนั้นเป็นอัตราที่ต่ำเกินไป และประกาศใช้อัตราดังกล่าวมาหลายสิบปีแล้ว ไม่สอดคล้องกับภาวการณ์ปัจจุบัน ที่ค่าครองชีพปรับตัวสูงขึ้น

เดิมจะเสนอคลังพิจารณาภายในปี 2557 ให้ทันการยื่นแบบในช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค.2558 แต่หลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาบริหารได้มีคำสั่งโยกย้ายนายสุทธิชัยไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง และแต่งตั้งนายประสงค์ พูนธเนศ มาเป็นอธิบดีสรรพากรแทน ทำให้มาตรการดังกล่าวไม่มีความคืบหน้า

ด้านนายประสงค์กล่าวว่า ยังระบุไม่ได้ว่ามาตรการปรับเพิ่มค่าลดหย่อนค่าใช้จ่ายสำหรับบุคคลธรรมดาจะมีความชัดเจนเมื่อใด เนื่องจากขณะนี้กรมสรรพากรมีหลายเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ

ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวจากกรมสรรพสามิตถึงการเก็บภาษีเครื่องดื่มที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพตามนโยบายของม.ร.ว.ปรีดิยาธรเทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ที่ผ่านมาศึกษาเตรียมพร้อมไว้แล้ว ทั้งการเก็บภาษีจากเครื่องดื่มชาเขียว เครื่องดื่มน้ำผลไม้ รวมถึงเครื่องดื่มชูกำลัง ซึ่งมีอัตราการเก็บภาษีที่ 20% แต่ที่ผ่านมาเครื่องดื่มดังกล่าวอยู่ในบัญชียกเว้น 111 รายการ เพราะถือว่าเป็นการสนับสนุนเกษตรกร

ที่ผ่านมากรมสรรพสามิตตรวจสอบพบว่าเครื่องดื่มชาเขียวและน้ำผลไม้มีส่วนผสมสินค้าเกษตรน้อยมากรูปเงินแบ้งค์