ประวัติความเป็นมาของสมาคมสื่อสารมวลชนมุสลิม จาก อดีต ถึงปัจจุบัน
เมื่อประมาณปี 2514 พี่น้องมุสลิมที่ทำกิจกรรมด้านสื่อสารมวลชนมุสลิม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ทำงานด้านวิทยุกระจายเสียง จำนวน 17 รายการ อกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียง 13 สถานี ได้รวมตัวกันด้วยเจตนาจะร่วมกันบำเพ็ญประโยชน์ต่อศาสนาอิสลามและสังคมส่วน รวม และได้ประกาศเจตนารมณ์นี้ ให้เป็นที่รับทราบอย่างกว้างขวางในวงการมุสลิม ทำให้พี่น้องมุสลิมที่ทำงาน ในระดับแกนนำของสถาบันองค์กรมุสลิมทั้งในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล เข้าร่วมสืบสานเจตนารมณ์กับ กลุ่มพี่น้องมุสลิมที่ทำงานด้านสื่อสารมวลชนมุสลิม เพื่อร่วมพัฒนาการดำเนินการทางศาสนาและสังคมมุสลิม ให้เจริญก้าวหน้าตามปณิธานที่ตั้งไว้ และขยายเพิ่มจำนวนสมาชิกร่วมอุดมการณ์ออกไปมากขึ้นอย่างกว้างขวาง โดยทุกคนมิได้มุ่งหวังสิ่งตอบแทนที่เป็นรูปธรรมใดๆ ทั้งสิ้น
เมื่อปี พ.ศ. 2520 แกนนำของคณะทำงานด้านสื่อสารมวลชนมุสลิม และพี่น้องมุสลิมทั่วไปที่เข้าร่วมกิจกรรม ร่วมอุดมการณ์ เพื่อสังคมส่วนรวม ได้ประกาศจัดตั้งกลุ่มคณะทำงานต่อสาธารณชน อย่างเป็นทางการ ในชื่อองค์กรว่า “ ชมรมวิทยุภาคมุสลิม ” โดยมี อัลมัรฮูมฮัจยีชาลี คุรุสวัสดิ์ ผู้จัดทำรายการวิทยุภาคมุสลิม ที่มีประสบการณ์ มีความอาวุโสสูง ด้วยวัยวุฒิและคุณวุฒิ ได้รับเลือกให้เป็นประธาน ชมรมวิทยุภาคมุสลิม อยู่หลายสมัย ตั้งสำนักงานอยู่ที่ สำนักอภิธรรมอันยูมันอิสลาม บางรัก และได้ผลัดเปลี่ยนตำแหน่งประธานชมรม และคณะผู้บริหารชมรมวิทยุภาคมุสลิม ในช่วงเวลาต่อมาอีกหลายชุด ทั้งอัลมัรฮูมฮัจยีสุวิทย์ อนันต์นับ , ฮัจยีอรุณ บุญมาเลิศ และอัลมัรฮูมอาจารย์สมาน ใจปราณี ได้เข้ารับตำแหน่งประธานชมรมวิทยุภาคมุสลิม เป็นลำดับต่อๆมา การรวมตัวที่เป็นรูปธรรมและก่อประโยชน์ให้อิสลามและสังคมส่วนรวม ประการหนึ่ง คือ การจัดทำวิทยุรอมฎอน ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้ฟังทั่วไปอย่างมากมาย เนื่องจากเป็นองค์กรที่รวมนักวิชาการมุสลิมผู้ทรงคุณวุฒิร่วมให้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับอิสลามในรายการวิทยุอย่างมีสาระยิ่ง
ต่อมาปี พ.ศ. 2525 สมาชิกของชมรมฯ มีความเห็นตรงกันว่า ควรจะปรับเปลี่ยนชมรมให้เป็นองค์กรนิติบุคคลตามกฎหมาย จึงได้มอบหมายให้นายสุธี ผลทวี เป็นผู้ยกร่างระเบียบข้อบังคับขององค์กรที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ โดยใช้ชื่อว่า “ สมาคมสื่อสารมวลชนมุสลิม “ เมื่อยกร่างข้อบังคับเป็นที่สมบูรณ์แล้ว จึงได้มอบหมายให้ นายสุวิทย์ อนันต์นับ , นายสุธี ผลทวี และนายฮาซัน สถิปัฎฐาน เป็นผู้เริ่มก่อการยื่นขอจดทะเบียนก่อตั้งสมาคมสื่อสารมวลชนมุสลิม และได้รับอนุมัติการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย ทะเบียนเลขที่ 003/2527 เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2527 โดยมีสำนักงานสมาคมฯ ตั้งอยู่ที่สำนักอภิธรรมอันยูมันอิสลาม ซอยโรงภาษี เขตบางรัก โดยมีนายสุวิทย์ อนันต์นับ เป็นนายกสมาคมฯ คนแรก ต่อมาได้ย้ายสำนักงานสมาคมฯ มาอยู่ที่อาคารเลขที่ 1681 ปากซอยรามคำแหง 5 (ริฟาอี) ถนนรามคำแหง แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร และได้จดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคมฯ เพื่อให้สอดคล้องกับกระแสโลกาภิวัตน์ โดยมีวัตถุประสงค์หลัก คือ
(1.) ดำเนินการเกี่ยวกับการจัดทำรายการวิทยุกระจายเสียง และวิทยุโทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ หรือสือ อื่น ๆ ในอันที่จะก่อประโยชน์ต่อสาราณะ
(2.) ธำรงไว้ซึ่งเกียรติและศักดิ์ศรีของผู้จัดรายการวิทยุกระจายเสียง หรือวิทยุโทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ หรือสื่ออื่น ๆ ที่นับถือศาสนาอิสลาม
(3.) สร้างความสมานสามัคคี เกื้อกูลกัน ระหว่างผู้จัดรายการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ สื่อ สิ่งพิมพ์ หรือสื่ออื่น ๆ รวมถึงการช่วยเหลือด้านสาธารณะกุศลโดยทั่วไป
สมาคมสื่อสารมวลชนมุสลิม เริ่มก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2527 – 2555 รวมเวลาได้ 27 ปี มีผู้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฯ ดังนี้.-
– ปี พ.ศ. 2527 ถึง 2536 มี นายสุวิทย์ อนันต์นับ เป็น นายกสมาคมฯ
– ปี พ.ศ. 2537 ถึง 2538 มี นายฮาซัน สถิปัฎฐาน เป็น นายกสมาคมฯ
– ปี พ.ศ. 2539 ถึง 2542 มี นายพงษ์ศักดิ์ สาโรวาท เป็น นายกสมาคมฯ
– ปี พ.ศ. 2543 ถึง ปัจจุบัน มี นายอาหะหมัด ขามเทศทอง เป็น นายกสมาคมฯ
กิจกรรมที่สำคัญของสมาคมสื่อสารมวลชนมุสลิม นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นที่ยอมรับของสาธารณชนอย่างกว้างขวาง ประกอบด้วย
( 1. ) การจัดทำรายการวิทยุกระจายเสียงชื่อรายการ “ มุสลิมสัมพันธ์ “ ภาคปกติ จัดทำตั้งแต่วัน จันทร์ ถึง วันเสาร์ (ปัจจุบันจัดทำทุกวัน) ตั้งแต่เวลา 17.00 น. – 18.00 น. และจัดทำรายการภาคพิเศษ ในเดือนรอมฎอน ติดต่อกันมาทุกปี ปัจจุบันกระจายเสียงทางสถานีวิทยุ
ทหานอากาศ 01 มีนบุรี ภาค เอ.เอ็ม. คลื่นความถี่ 945 กิโลเฮิร์ท
( 2. ) การจัดทำรายการ “โทรทัศน์รอมฎอน “ หลายปีติดต่อกันในช่วงที่ นายสุวิทย์ อนันต์นับ เป็นนายกสมาคมฯ
( 3. ) จัดวิทยากรบรรยายให้ความรู้แก่พี่น้องมุสลิม ตามสถาบันต่างๆ ทั้งส่วนกลางและภูมิภาค
( 4. ) จัดโครงการให้ความสงเคราะห์ช่วยเหลือพี่น้องมุสลิม และบุคคลทั่วไป ที่ประสบภัยพิบัติต่าง ๆ
( 5. ) จัดโครงการฝึกอบรมพัฒนาพลังการพูด และบุคลิกภาพ แก่ผู้แทนองค์กร สถาบันต่าง ๆ
( 6. ) ร่วมกิจกรรมกับองค์กรสถาบันมุสลิม และองค์การพัฒนาสังคม ต่าง ๆ
สถานะภาพของสมาคมฯ ในปัจจุบัน มีสมาชิก จำนวน..236 .คน
สำนักงานปัจจุบัน ตั้งอยู่เลขที่ 340/3 ถนนพระรามที่ 9 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพ ฯ เป็นอาคารที่ได้รับความอนุเคราะห์จาก บริษัทขามเทศทอง จำกัด ให้สมาคมฯ ใช้เป็นสำนักงาน , ห้องส่งกระจายเสียงวิทยุ , ห้องประชุม โดยไม่คิดค่าเช่า